ร้อยเอ็ด – ม่วนซื่นไปกับ 6 สถานที่เที่ยวร้อยเอ็ด เที่ยวชิล ๆ ในอีสาน

เมื่อพูดถึงเมืองขนาดกลางในภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่มีสถานที่ท่องเที่ยวอันงดงาม น่าประทับใจนั้น ร้อยเอ็ด น่าจะเป็นหนึ่งในเมืองที่ใครหลายคนนึกถึง

โดยนอกจากร้อยเอ็ดจะเป็นเมืองที่มีสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแล้ว เมืองนี้ยังเป็นเมืองที่สามารถท่องเที่ยวได้สะดวก เพียงแค่นั่นเครื่องบินมาลง สนามบิน ร้อยเอ็ด ใช้เวลาไม่กี่ชั่วโมงก็ถึง อีกทั้งที่พัก ร้อยเอ็ด ในปัจจุบันนั้นก็มีอยู่มากมาย สามารถเลือกจองได้ตามที่ต้องการ ด้วยเหตุนี้ ทำให้ " จังหวัดร้อยเอ็ด " ลายเป็นจังหวัดที่น่าสนใจ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการมาพักผ่อนในช่วงวันหยุดยาว สำหรับในบทความนี้ เราจะมาแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวภายในจังหวัดนี้กันว่ามีที่ใดบ้าง เผื่อว่าใครที่อยากจะไปเที่ยวร้อยเอ็ดสักครั้ง แต่ไม่รู้ว่าควรจะไปที่ไหนดี จะได้มีตัวเลือกไว้ประกอบการพิจารณาได้

โดยตัวอย่างสถานที่ที่ท่องเที่ยวที่เราจะนำมากล่าวถึงไว้ในที่นี้ มีอยู่ทั้งหมด 6 แห่ง ได้แก่

ทุ่งกุลาร้องไห้

1. ทุ่งกุลาร้องไห้ เป็นทุ่งขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ในเมืองร้อยเอ็ด เหตุที่ได้ชื่อนี้เนื่องจากว่าแต่เดิม ทุ่งแห่งนี้มีความแห้งแล้งอย่างรุนแรง ไม่มีน้ำ ไม่สามารถปลูกอะไรได้ ชนิดที่ว่าชาวกุลายังต้องร้องไห้เมื่อมาถึง ทุ่งกุลาร้องไห้ แห่งนี้ แต่ในปัจจุบัน ทุ่งกุลาร้องไห้แห่งนี้ได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นทุ่งที่มีความอุดมสมบูรณ์ ไม่มีเค้าของความแห้งแล้งหลงเหลืออยู่ ถ้าหากว่าเราไปในวันนี้ก็จะได้เห็นทุ่งนาเขียวขจี เป็นภาพที่สวยงามและน่ารื่นรมย์เป็นอย่างยิ่ง

วัดบูรพาภิราม

2. วัดบูรพาภิราม เป็นวัดสำคัญของจังหวัดร้อยเอ็ด เดิมมีชื่อว่าวัดหัวรอ ก่อนจะเปลี่ยนชื่อเป็นวัดบูรพาภิรามในเวลาต่อมา วัดแห่งนี้เป็นที่ " ประดิษฐานพระพุทธรัตนมงคลมหามุนี " ชาวบ้านเรียกกันว่าหลวงพ่อใหญ่ เป็นพระพุทธรูปปางประทานพรก่ออิฐถือปูนที่สูงใหญ่ ถือเป็นพระพุทธรูปยืนที่สูงที่สุดในประเทศไทย ชาวบ้านให้ความเคารพนับถือพระพุทธรูปองค์นี้กันทั่วไป และถือว่าหลวงพ่อใหญ่เป็นมิ่งขวัญของจังหวัดร้อยเอ็ด นักท่องเที่ยวที่ได้เดินทางมาเที่ยวจังหวัดร้อยเอ็ดแล้ว ขอแนะนำว่าไม่ควรพลาดการไปสักการะหลวงพ่อใหญ่

ปรางค์กู่

3. ปรางค์กู่ เป็นศาสนสถานเขมรโบราณประเภทอโรคยศาลา สร้างขึ้นจากศิลาแลง มีอายุเก่าแก่ไปถึงสมัยพระเจ้าชัยวรมันที่ 7 แห่งอาณาจักรเขมรโบราณเลยทีเดียว ปัจจุบันปรางค์กู่ได้รับการบูรณะปฏิสังขรณ์จนอยู่ในสภาพดี ถือเป็นงานสถาปัตยกรรมโบราณชิ้นสำคัญชิ้นหนึ่งที่ผู้ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีไม่ควรพลาด

น้ำตกถ้ำโสดา

4. น้ำตกถ้ำโสดา เป็นน้ำตกที่ถือว่าสวยงามที่สุดในจังหวัดร้อยเอ็ด เป็นน้ำตกที่มีลักษณะแปลกกว่าน้ำตกในที่อื่นๆ คือเป็นน้ำที่ตกลงมาหน้าถ้ำ ส่งผลให้ดูราวกับว่าถ้ำนี้ถูกปิดด้วยผ้าม่าน อีกทั้งน้ำที่ไหลลงมาเป็นสายของน้ำตกนี้ก็ดูคล้ายม่าน จึงยิ่งเป็นภาพที่สวยงามและคลาสสิกมาก ใครที่ชื่นชอบนวนิยายประเภทผจญภัย ที่ตัวเอกมักบุกเข้าไปในเขาด้วยการเข้าถ้ำที่มีน้ำตกขวาง ขอแนะนำให้ลองไปเที่ยวน้ำตกนี้ดู แล้วท่านจะได้เห็นว่าน้ำตกในจินตนาการจากนวนิยายของท่านนั้น แท้จริงแล้วมีลักษณะเป็นอย่างไร อีกทั้งน้ำตกแห่งนี้ยังมีน้ำตลอดทั้งปี นักท่องเที่ยวสามารถไปเที่ยวได้ทุกฤดูกาล สามารถลงเล่นน้ำได้ แต่ต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของอุทยานฯ อย่างเคร่งครัด

บึงพลาญชัย

5. บึงพลาญชัย เป็นบึงน้ำขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมือง ร้อยเอ็ด จุดเด่นของบึงน้ำแห่งนี้อยู่ที่เกาะกลางบึง ซึ่งได้มีการประดับประดาไม้ดอกไม้ประดับต่างๆ จนร่มรื่นและสวยงาม เป็นที่ๆ เหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง นอกจากนี้ ภายในบึงยังมีการติดตั้งน้ำพุ จึงยิ่งทำให้เกิดความสวยงาม และเหมาะสมกับการพักผ่อนหย่อนใจเป็นอย่างยิ่ง การมาเที่ยวชมบึงแห่งนี้ควรมาในช่วงเช้าตรู่ หรือช่วงเย็นที่พระอาทิตย์ใกล้ตกดิน เนื่องจากเป็นช่วงเวลาที่อากาศไม่ร้อน เหมาะสำหรับการนั่งเล่น แล้วยังได้เห็นแสงทองจับที่ผิวน้ำจนเป็นสีทองระยิบระยับ เป็นภาพที่สวยงามและน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง

ถ้ำผาน้ำทิพย์ บริเวณผาหมอกมิวาย

6. ผาหมอกมิวาย ตั้งอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า ถ้ำผาน้ำทิพย์ เป็นจุดชมวิวที่เรียกได้ว่าดีที่สุดในจังหวัดร้อยเอ็ด สามารถใช้ชมพระอาทิตย์ตกดินได้อย่างสวยงาม อีกทั้งหากมาในช่วงฤดูหนาว เราจะได้เห็นทะเลหมอกที่สวยงาม ไม่แพ้การไปชมทะเลหมอกบนดอยที่ภาคเหนือเลย ใครที่ชื่นชอบการชมทิวทัศน์ ชอบทะเลหมอก ไม่ควรพลาดการไปชมผาหมอกมิวายแห่งนี้ไปด้วยประการทั้งปวง

สถานที่ทั้ง 6 นี้ หากนักท่องเที่ยวคนใดได้ไปเยี่ยมเยือนจังหวัดร้อยเอ็ด รับรองว่าจะเกิดความม่วนซื่นอย่างแน่นอน จะเห็นได้ว่าร้อยเอ็ดเป็นจังหวัดที่มี สถานที่เที่ยวร้อยเอ็ด

เป็นจำนวนมากจริงๆ ไม่ด้อยไปกว่าจังหวัดอื่นเลย ใครที่คิดไม่ออกว่าวันหยุดสุดสัปดาห์นี้จะไปไหน ขอแนะนำให้ไปสัมผัสกับจังหวัดร้อยเอ็ดดู รับรองว่าท่านจะประทับใจไม่รู้ลืมเลย
           แต่ก่อนเดินทางไปร้อยเอ็ด อย่าลืมทำประกันการเดินทางติดตัวไว้ด้วย เพราะอุบัติเหตุและเหตุไม่คาดฝันต่างๆ สามารถเกิดได้ทุกเวลา ประกันเดินทางในประเทศ TIP FLY SURE จากทิพยประกันภัย มีให้คุณเลือกทั้งแบบเที่ยวเดียว 55 บาท และแบบไป-กลับ 129 บาท ราคาถูกกว่าซื้อผ่านสายการบินแบบครึ่งๆ ให้คุณสบายใจตลอดการเดินทางด้วยความคุ้มครองตลอดทริปนานสูงสุดถึง 30 วัน ครอบคลุมทั้งกรณีเสียชีวิต อุบัติเหตุ สัมภาระเสียหาย ไฟลท์ดีเลย์ พร้อมบริการช่วยเหลือ 24 ชม.

ซื้อออนไลน์ง่ายๆ เพียงมีตั๋วเครื่องบินแล้วคลิกไปที่ www.tipinsure.com/tipflysure เพียงกรอกรายละเอียดก็รับกรมธรรม์ผ่านอีเมลได้ทันที เพื่อให้การเที่ยวร้อยเอ็ดเป็นไปอย่างม่วนซื่น ไร้กังวล อย่าลืมกันเดินทาง TIP FLY SURE